วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ลงเรือมาเมื่อวาน : นิราศชีวิตผ่านกระแสธารของกาลเวลา


ลงเรือมาเมื่อวาน ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ เป็นกวีนิพนธ์ที่พรรณนาอารมณ์ความรู้สึกสะเทือนใจของกวีที่มีต่อผู้คนและสิ่งต่างๆ ในสังคม หลายบทเป็นการตั้งคำถามกับวันคืนที่ผ่านไปในกระแสธารของกาลเวลา เขาได้ชี้ชวนให้ขบคิดถึงความสำคัญของการดำรงอยู่และความเป็นไปของวัฏจักรชีวิต แม้ว่าจะเป็นสัจธรรมที่รับรู้กันโดยทั่วไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนำเรื่องราวชีวิตเล็กๆ เหล่านั้นมาตกแต่งเรียงร้อยด้วยถ้อยคำกวี



ศิริวรได้เชิญชวนให้ผู้อ่านรื่นรมย์กับความงดงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะความเหน็บหนาวซึ่งปรากฏในหลายบท [ “...เยียบหนาวขณะแว่วยินอินทนนท์ กระซิบกับกิ่งสน แห่งถนนธงชัย ปลดวางเป้สัมภาระ นิ่งสดับจังหวะ นัยยะลมหายใจ เยือกหนาวในคลื่นเศร้ากระซิบ ลำเลียงยะเยียบเงียบกริบ จากโพ้นเมืองลิบไกล...” ] บางครั้งเขาไม่อาจแยกตัวออกมาแสดงทัศนะต่อชีวิตได้อย่างอิสระ เพราะเมื่อตกอยู่ท่ามกลางความงดงามนั้น เขาก็มักจะกลายกลืนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปในที่สุด [ “ เกาะแก่งแห่งแสงเงา สลักเทือกเขา เสลาทิวผา หมดจดจรดขอบฟ้า รายระยับสลับซับซ้อน เปลไกวแผ่วลมไกว ติดตามใจไปสัญจร ลัดเลาะและเซาะซอน ผ่านเที่ยงวัน ยิ่งสั่นหนาว!” ]


ในบท เช้าที่แตกต่าง เขาใช้คำซ้ำๆ เพื่อนำเสนอภาพยามเช้าของทุกวัน แต่ต่างสถานการณ์ ต่างอารมณ์ความรู้สึก ดังที่ว่า


เช้าบางเช้า แตกต่างจากบางเช้า
กาแฟใหม่ ถ้วยเก่า เราชงใหม่
ข่าวบางข่าว บางเช้าเศร้าเกินไป
ใจบางใจ บางเช้าเศร้ากว่านั้น

เช้าบางเช้า วุ่นวายกว่าหลายเช้า
ใน-เงียบเหงา นอก- ทั้งมวลกลับป่วนปั่น
ใน- ร้อนรุ่ม นอก- ยะเยียบด้วยเงียบงัน
ใกล้ในคำ อาจสัมพันธ์นั้นห่างไกล

เช้าบางเช้า แดดฉายกว่าหลายเช้า
ตะวันเก่า ฉายช่วงห้วงกาลใหม่
เช้าบางเช้า แดดอ่อนร้อนเกินไป
ใจบางใจบางเช้า หนาวในร้อน

เช้าบางเช้า อ้างว้างกว่าบางเช้า
บางมิตรเก่า เหตุใดไม่เหมือนก่อน
บางความจริง โศกสลดกว่าบทละคร
บางช่วงตอนมายา ยิ่งกว่าจริง!

เช้าบางเช้า แตกต่างจากบางเช้า
ดอกไม้เรา เฉาพรากจากก้านกิ่ง
ดอกไม้ท่าน ผ่านสะพรั่งยังสดพริ้ง
แตกต่างกันอย่างยิ่งในสิ่งเดียว

เช้าบางเช้า โหยหากว่าบางเช้า
โอ้, ลำธาร บ้านเก่า ทิวเขาเขียว
ดวงตาใครในกระจกช่างรกเรี้ยว
ณ ป่าเปลี่ยวแห่งชีวิตค้นปริศน์ใด

เช้าบางเช้า แตกต่างจากบางเช้า
กาแฟใหม่ ถ้วยเก่า เราชงใหม่
เช้าบางเช้า บางหนหวานข้นไป
กลับบางเช้าไม่เข้าใจ ไยขมนัก!



เช้าที่แตกต่าง เป็นบทที่แสดงมุมมองและทัศนะที่เฉียบคมและเชิญชวนให้เราขบคิดถึงความต่างท่ามกลางความเหมือนเดิมของทุกวันได้อย่างน่าสนใจและน่าคิดตาม ทั้งยังให้เสียงที่เกิดจากการเล่นคำซ้ำได้อย่างไพเราะ จะติดอยู่ก็ตรงคำที่ว่า "ค้นปริศน์ใด" ก็น่าจะใส่มาในรูปเต็มของคำ ก็จะเป็นไรไปเล่าถ้าวรรคนี้จะเป็นว่า "ณ ป่าเปลี่ยวแห่งชีวิตค้นปริศนาใด"


มาดูฉันทลักษณ์บ้าง ศิริวรนำเสนออย่างไม่เคร่งครัดแบบกวีรุ่นใหม่ ท่วงทำนองและลีลาเด่นที่การซ้ำคำและย้ำความ บ้างก็ใช้คำคู่ตรงข้ามเพื่อขับเน้นความให้ชัดขึ้น บ้างก็เล่นสลับเสียงหนักเบาคล้ายกลบท กาพย์ กลอน ฉันท์และร้อยแก้วไร้สัมผัสมีลักษณะทั้งสืบทอดและสร้างสรรค์ซึ่งให้จินตภาพที่แปลกต่าง [“เขียวตะไคร่คระครึ้ม เขลอะขรึมคละขาว เกาะด่างกระดานสราญ ณ ราว- ระเบียงเรือน วาดตะวันระยับจะลับจะเลือน ขมุกขมัวสลัวเสมือน ทะมื่นมา”]

แม้เรื่องราวและอารมณ์จะหลากหลาย แต่รวมกวีนิพนธ์เล่มนี้ก็ร้อยเรียงให้เห็นอัตลักษณ์ของกวีคนหนึ่งได้โดยง่าย ลงเรือมาเมื่อวาน จึงเป็นนิราศที่กวีประหนึ่งพลัดหลงเข้าไปในห้วงของกาลเวลาอันยาวนาน ผ่านเหตุการณ์ต่างกรรมต่างวาระ ทว่าเขากลับรู้สึกว่ารวดเร็วราวกับเมื่อวานนี้เองที่ได้ลงเรือจากมา

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สุดยอดเลยครับ ผมชอบมาก