วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ปั่นแปะ : สัจจะของลูกผู้ชายที่ไม่สมประกอบ


07 มิถุนายน, 2007


"ปั่นแปะ" เป็นเรื่องสั้นของอุเทน พรมแดง นักขยันเขียนผู้มากฝีมือ เขามีผลงานรวมเรื่องสั้นมากมาย ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในวัยเพียงยี่สิบกว่าๆ เท่านั้น

ปั่นแปะเป็นเรื่องของ "ผม" หนุ่มบ้านนาที่มาใช้ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อเขาได้กลับบ้านที่จากมานาน เขาพบกับ "หน่อง" เพื่อนเก่าผู้มีสติไม่สมประกอบอีกครั้งในวงเหล้า หน่องเป็นหนุ่มใหญ่ที่ไม่อาจใช้ชีวิตครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ เพราะสติที่ไม่สมประกอบ แต่เขากลับมีพรสวรรค์ในการพนันและเขารักการพนันเป็นชีวิตจิตใจ ในวงเหล้านั้นเอง "ผม" ได้เล่นปั่นแปะกับหน่องโดยบังเอิญเมื่อเหรียญบาทเหรียญหนึ่งตกจากกระเป๋า การปั่นแปะครั้งนั้น ทำให้เขาพบสัจจะในวงเหล้าจากชายผู้มีสติไม่สมประกอบโดยที่เขานึกไม่ถึง หลังจากเศษสตางค์สูญไปกับการทายหัว-ก้อยจนหมด หน่องก็พนันว่าถ้าเขาแพ้ จะยอมไถนาให้บ้านเขาสามปี และในที่สุดก็ทำตามที่พูดอย่างเคร่งครัด เขาเสียอีกที่ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เมื่อเขาได้พบหน่องอีกครั้งและเล่นปั่นแปะกันอีก คราวนี้หน่องพนันด้วยการยอมไถนาให้บ้านเขาสิบปี แต่เขากลับกลัวสัจจะของหน่องเสียแล้ว...


เรื่องนี้มีโครงเรื่องที่ไม่ซับซ้อน แต่มีประเด็นที่น่าสนใจตรงที่การสร้างตัวละครให้ขัดแย้งกัน "ผม"เป็นภาพแทนของคนหมู่มากในสังคมที่ไม่ได้ยึดถือคำพูดอย่างจริงจัง ในขณะที่หน่องเป็นภาพแทนของคนกลุ่มน้อยถึงน้อยมากที่ให้คำสำคัญกับคำสัญญา ความมีสติที่ไม่สมประกอบบอกเราว่า คนอย่างหน่องแทบไม่พบในชีวิตประจำวัน แต่คนอย่าง "ผม" เราพบเห็นได้ทั่วไป ตัวละครที่ขัดแย้งนี้ นำไปสู่ความขัดแย้งของเรื่อง เมื่อ "ผม" ต้องปั่นแปะอีกครั้งด้วยเดิมพันแรงงานสิบปีของหน่อง "ผม"ก็ไม่อยากจะให้ผลออกว่าว่าหน่องแพ้อีก ความขัดแย้งในใจของตัวละครจึงสร้างอารมณ์กดดันให้แก่ผู้อ่านด้วยเช่นกัน

หากพิจารณาแก่นเรื่องแล้ว เราคงเห็นความคิดของผู้เขียนที่มุ่งนำเสนอความหมายของคำสัญญา ซึ่งหาได้ยากแล้วในสังคมปัจจุบัน เรื่องจึงมุ่งไปที่การสร้างให้เกิดในวงเหล้า และเกิดขึ้นกับตัวละครที่มีสติไม่สมประกอบ แม้ผู้เขียนจะแฝงน้ำเสียงและท่าทีแบบเหลือเชื่อเมื่อ "ผม" รู้ว่าหน่องมาไถนาให้ตามสัญญานานถึงสามปี แต่ผู้เขียนก็น่าจะสื่อสารมายังผู้อ่านว่า ถึงกระนั้นในสังคมที่ผู้คนสนใจแต่ธุระของตนเอง ก็ยังมีคนดีเช่นหน่องหลงเหลืออยู่บ้าง แม้จะหาได้ยากเต็มทีแล้ว

"ปั่นแปะ" อาจเป็นแบบฝึกคิดที่ไม่ยากจนเกินไป โครงเรื่องเชิงเดี่ยวและตัวละครที่ไม่มีพลวัตก็ทำให้เราเข้าถึงสารของเรื่องได้โดยง่าย สิ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจให้ต้องขบคิดกันต่อไปอีก ก็เห็นจะเป็นชื่อเรื่อง ปั่นแปะ อาจเป็นเพียงการพนันที่แสนจะธรรมดา แต่ก็สะท้อนความคิดของคนที่มักเห็นภาพเพียงขาว และดำเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงทุกอย่างล้วนมีสีเทาไม่ใช่หรือ คนอย่าง"ผม" ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก คนอย่าง"หน่อง" ก็อาจมีความไม่สมประกอบเป็นมุมมืด โลกเราก็เป็นเช่นนี้เอง ...

ไม่มีความคิดเห็น: