วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550

จาก "ฉวนเหยา" ถึง "เว่ยฮุ่ย"

ครั้งก่อนพูดถึงนวนิยายของฉวนเหยา ทีแรกเข้าใจว่าชื่อของเธออาจไม่คุ้นหู แต่เมื่อหาชื่อในกูเกิลพบว่า นักเขียนชาวไต้หวันคนนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่นักอ่านนวนิยายจีน ชื่อของเธอนั้น บางคนออกเสียงว่า ฉงเหยา และเปรียบเธอว่าเป็น ทมยันตี หรือ บุษยมาส ของเมืองไทย ผลงานของเธอมักได้รับการคัดเลือกมาสร้างเป็นภาพยนตร์และเป็นละครโทรทัศน์หลายเรื่อง

เมื่อชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก จึงมีนักแปลเลือกนวนิยายของเธอมาแปลเป็นภาษาไทยหลายเรื่องแล้ว เช่นเรื่อง ดั่งคนละฟากฟ้า

มีคำโปรยถึงนวนิยายเรื่องนี้ว่า"ชีวิตคนก็เหมือนท้องฟ้า ยามเมื่อฟ้าหม่นเมฆหมอกบดบัง ชีวิตก็เหี่ยวเฉา แต่ยามใดเมื่อฟ้าโปร่งไร้ก้อนเมฆ ชีวิตก็สดใสอีกครั้ง ขอเพียงตั้งปณิธานให้กับตัวเองว่าจะต้องรอดูท้องฟ้าที่สดใสให้ได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาบ้างก็จำต้องอดทนเพื่อวันแห่งความสุขจะได้กลับมาเยือนอีกครา"

“ดั่งคนละฟากฟ้า” เป็นนวนิยายชีวิตที่ผู้เขียนคือ ฉวนเหยา ได้หยิบยกประเด็นความรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างพี่น้องที่รักใคร่ห่วงหา-อาทรกันตลอดเวลา แม้จะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด แต่ก็ยังยึดมั่นในสำนวนที่ว่า “เลือดข้นกว่าน้ำ” ความรักที่ยิ่งใหญ่เปิดเผย และหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเอง" (ดั่งคนละฟากฟ้า โดย ฉวนเหยา เขียน / น.นพรัตน์ แปล : สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า พิมพ์ครั้งที่ 1: กรกฎาคม 2538 ความหนา 180 หน้า) นักอ่านที่ชื่นชอบนวนิยายรักหวานซึ้งก็คงจะติดตามผลงานของเธอในฉบับภาษาไทยอีกหลายเรื่องต่อไป


นักเขียนจีนหญิงอีกคนที่มีคนพูดถึงกันคือ เว่ยฮุ่ย ที่จริงเธอผู้นี้ได้รับการกล่าวขานมาสักระยะหนึ่งแล้ว เมื่อ "คำ ผกา" แปลนวนิยายเรื่องเซี่ยงไฮ้เบบี้ และได้รับการตอบรับจากนักอ่านอย่างล้นหลามจนต้องพิมพ์หลายครั้ง และชื่อของเว่ยฮุ่ยก็เป็นที่ติดตามของนักอ่านคนไทยมาจนถึงปัจจุบันเว่ย ฮุ่ย (卫慧) เป็นนักเขียนหญิงชาวจีนรุ่นใหม่ เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1973 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เอกภาษาจีน จากมหาวิทยาลัยฟู่ตัน เคยทำงานเป็นนักข่าว บรรณาธิการ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ เคยเขียนบทละคร กำกับและแสดงเอง ทั้งยังเคยเป็นพนักงานต้อนรับในร้านกาแฟ มีผลงานมาแล้ว ๖ เล่ม คือ รวมเรื่องสั้นชุดเสียงกรีดร้องของผีเสื้อ พรหมจรรย์ในสายน้ำ ปืนปรารถนา บ้าอย่างเว่ย ฮุ่ย เซี่ยงไฮ้เบบี้ และ ฌานของฉัน เธอถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน “กลุ่มนักเขียนที่เกิดในยุคปี 70” ที่ถูกสังคมจีนวิพากษ์ว่ามักนำเสนอเรื่องราวไร้สาระ เปิดเผยเรื่องเพศ และไม่มีคุณค่าจรรโลงสังคม
คราวหน้าจะเล่าถึง เซี่ยงไฮ้เบบี้ นวนิยายที่มีคำโปรยว่า “หนังสืออื้อฉาวที่ทางการจีนสั่งห้ามขายและถูกสั่งเผาไปแล้วกว่าสี่หมื่นเล่ม”

ไม่มีความคิดเห็น: