วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2550

หมู่บ้านในแสงเงา : กวีนิพนธ์บนเส้นสีชีวิต



หมู่บ้านในแสงเงา รวมบทกวีนิพนธ์ของโกสินทร์ ขาวงาม ผู้เป็นน้องชายคลานตามกันมาของไพรวรินทร์ ขาวงาม ความเรียบง่ายที่นุ่มนวลเมื่อกวีพรรณนาถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวนับเป็นภาพรวมของบทกวีเล่มนี้ กวีผู้เติบใหญ่ท่ามกลางความรัก ความดูแลเอาใจใส่ของพ่อและแม่ แม้พ่อจะไม่อยู่ แต่แม่ก็คอยบอกลูกว่า " นั่นชมพู่กิ่งใบในใจตัว เหมือนยิ้มยั่วโน้มนำเล่าตำนาน เป็นต้นที่พ่อเจ้าเขาเฝ้าปลูก แล้วจากลูก-แม่ไปไม่อยู่บ้าน เหลือเพียงกลิ่นสาบเสื้อจากเหงื่องาน อวลไปทั่วเรือนชานบ้านอารมณ์"


ลูกคนนี้จึงเติบโตขึ้นอย่างคนที่เปี่ยมรักและเลยแผ่ความรักในใจไปสู่ธรรมชาติ เขาจึงรู้ซึ้งถึงความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงแต่งดงามเท่านั้น ยังบันดาลให้เข้าถึงพุทธิปัญญาได้ไม่ยากนัก ดังที่ว่า "โอ้เจ้านวลดอกแคที่แม่ปลูก เจ้าพันผูกตัวตนลูกคนไหน กระดาษถึงบานออกเป็นดอกใบ สะพรั่งในทัศนียภาพนั้น นวลด้วยใจสัตย์ซื่อ มือยบย่น ตักน้ำฝนพออิ่มไว้ปริ่มขัน นกกระจิบเริงแสงแห่งตะวัน งามที่ปันสีขาวเจ้าขาวนวล โอ้เจ้านวลดอกแคที่แม่ปลิด ภาพชีวิตคุ้นชินบนดินสวน หัวใจผ่านร้อนเย็นเป็นกระบวน กอบเก็บถ้วนฝุ่นเถ้าในเหงาลึก สัมผัสผ่านอายุทะนุถนอม ดอกชีวิตเก็บดอมหอมรู้สึก เนื้อหาโลกเก็บงำในสำนึก โยงผ่านผลึกลึกล่วงร่วงดอกแค"


รวมบทกวีนิพนธ์เล่มนี้ อาจทำให้หลายคนหวนคิดถึงวัยเยาว์ในอดีต ในยามที่เคยอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่ และตายาย บทหนึ่งที่แสดงความรักความผูกพันระหว่างตาหลาน โดยเฉพาะในยามที่หลานเติบโตแล้วไปอยู่ที่อื่น ดังว่า "ตาของใครอ้อยส้อยนั่งคอยหลาน ในร่มลานเงียบเย็นโอนเอนไหว ต้นชีวิตผ่านคล้อยปลิดขั้วใบ รอคอยใครเดียวดายในสายตา นานมาแล้วหลานรักไม่กลับบ้าน จนวันหนึ่งจึงหลานกลับมาหา ไปพบกาลผ่านพรากรากพุทรา จักรยานของตาเก่าพังแล้ว!"


ความงดงามของ "หมู่บ้านในแสงเงา" แม้จะยังไม่งดงามทั้งหมด แต่ก็ก่อให้เกิดอารมณ์หวามไหวในบางตอน หากไม่คำนึงถึงพลังและอำนาจในความหมายของคำมากจนเกินไปนัก บทกวีเล่มนี้ก็นับว่างดงามในแสงเงาอยู่ไม่น้อย อ้อ! ขอแถมท้าย ที่หน้าปกเสมือนว่ามีสติ๊กเกอร์การันตีรางวัลติดอยู่ แท้จริงเป็นอารมณ์ขันปนเสียดสีที่เขียนว่า "หนังสือเล่มแรก" ช่างน่ารักน่าหยิกอะไรเช่นนี้หนอ!!

ไม่มีความคิดเห็น: